Slide

5 มกราคม 2565

สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงติดตามการดำเนินงานโครงการตามพระราชดำริ ณ ศูนย์การเรียนตำรวจตระเวนชายแดนทรัพย์ทรายทอง อำเภอปะคำ จังหวัดบุรีรัมย์ 

วันที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2565 เวลา 13.00 น. สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงติดตามการดำเนินงานโครงการตามพระราชดำริ ณ ศูนย์การเรียนตำรวจตระเวนชายแดนทรัพย์ทรายทอง อำเภอปะคำ จังหวัดบุรีรัมย์ ปัจจุบันมีนักเรียน 93 คน โอกาสนี้พระราชทานเข็มเชิดชูเกียรติ ชั้นที่ 1 แก่ผู้ปฏิบัติงานโครงการตามพระราชดำริ จำนวน 16 ราย พร้อมทั้งพระราชทานพระราชวโรกาสให้นักเรียนในพระราชานุเคราะห์ฯ เฝ้า ถวายรายงานผลการเรียน ทอดพระเนตรการสาธิตการสอนวิชาภาษาไทย ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 เรื่อง สระลดรูปและสระเปลี่ยนรูป กิจกรรมห้องพยาบาล กิจกรรมโครงการเกษตรเพื่ออาหารกลางวัน โรงเรียนดำเนินกิจกรรมต่างๆ อาทิ การปลูกพืชผัก การเลี้ยงเป็ดพันธุ์ไข่ เลี้ยงปลานิลในบ่อดิน รวมทั้งได้ฝึกให้นักเรียนขยายพันธุ์พืชโดยการตอนกิ่งต้นฝรั่ง เพื่อช่วยลดเวลาในการปลูกและสามารถเก็บผลผลิตได้เร็วขึ้น กิจกรรมประกอบเลี้ยงอาหารกลางวันและอาหารเสริมนม กิจกรรมแปรรูปผลผลิตทางการเกษตร ได้แก่ การทำไข่เค็ม โดยนำไข่เป็ดที่ได้จากโครงการเกษตรเพื่ออาหารกลางวันมาทำเป็นไข่เค็ม เพื่อใช้เป็นวัตถุดิบในการประกอบอาหารกลางวันให้แก่นักเรียนได้ต่อไป

จากนั้นทอดพระเนตรการจัดการเรียนการสอนระดับชั้นอนุบาล กิจกรรมฝึกวิชาชีพนักเรียน ได้แก่ การทำโต๊ะนั่งปูนปั้นไม้เทียม การทำกระถางปูนปั้น และการทำเครื่องจักสาน ทำให้นักเรียนมีทักษะด้านงานอาชีพสามารถนำไปประกอบอาชีพในอนาคต สร้างรายได้ให้แก่ตนเองและครอบครัว กิจกรรมอนุรักษ์วัฒนธรรมและภูมิปัญญาท้องถิ่น “การจักสาน” กิจกรรมสหกรณ์นักเรียน และกิจกรรมห้องสมุด

การนี้นายเข้มแข็ง ยุติธรรมดำรง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร นำกลุ่มเศรษฐกิจพอเพียง ตามพระราชดำริ ในพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ จำนวน 5 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มเศรษฐกิจพอเพียงบ้านระกาเสม็ด บ้านน้อย บ้านโนนศิลา บ้านพลับ และบ้านไร่โคก เข้าเฝ้าฯ ถวายรายงานผลความก้าวหน้าในการปฏิบัติงาน โดยกลุ่มได้ดำเนินกิจกรรมต่างๆ  อาทิ ปลูกพืชผักสวนครัว ไม้ผล ทำนา เลี้ยงสัตว์  ทำปุ๋ยอินทรีย์ไว้ใช้ในครัวเรือน ทำงานหัตถกรรม รวมทั้งแปรรูปผลผลิตทางการเกษตร เพื่อถนอมอาหารไว้บริโภค และนำไปจำหน่ายสร้างรายได้ ทำให้กลุ่มสามารถพึ่งตนเองได้ รวมทั้งส่งผลให้ชุมชนเข้มแข็งอย่างมั่นคงและยั่งยืน ปัจจุบันกลุ่มเศรษฐกิจพอเพียงในพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ มีสมาชิกทั้งหมด รวม 229 คน และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานเงินเพื่อเป็นกองทุนสำรองจ่ายและเป็นเงินหมุนเวียนในการดำเนินกิจกรรมกลุ่มด้วย