Slide

31 มกราคม 2565

สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงติดตามการดำเนินงานโครงการตามพระราชดำริ ณ ศูนย์การเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านภักดี อำเภอบันนังสตา จังหวัดยะลา

วันที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2565 เวลา 13.05 น. สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงติดตามการดำเนินงานโครงการตามพระราชดำริ ณ ศูนย์การเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านภักดี อำเภอบันนังสตา จังหวัดยะลา ซึ่งเปิดทำการสอนมาตั้งแต่ปี 2558 ปัจจุบันมีนักเรียน 80 คน โอกาสนี้พระราชทานเข็มเชิดชูเกียรติชั้นที่ 1 แก่ผู้ปฏิบัติงานโครงการตามพระราชดำริ จำนวน 21 ราย การนี้ครูใหญ่กราบบังคมทูลรายงานความก้าวหน้าผลการดำเนินงานโครงการตามพระราชดำริ จากนั้นทอดพระเนตรกิจกรรมการสาธิตการสอนวิชาภาษาไทย ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 เรื่อง การใช้สระเอีย โดยใช้เพลงและสื่อบัตรคำมาช่วยสอน ทำให้นักเรียนสามารถอ่านและเขียนภาษาไทยได้มากขึ้น โดยโรงเรียนได้ดำเนินการพัฒนาการจัดการเรียนการสอนวิชาภาษาไทย ให้นักเรียนอ่านออก เขียนได้ ตามที่มีพระราชกระแส ณ ศูนย์การเรียนฯ เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 ความว่า “ให้ครูระดับชั้นอนุบาลปูพื้นฐานด้านภาษาไทยแก่นักเรียนตั้งแต่ชั้นอนุบาล” โรงเรียนจึงได้ดำเนินกิจกรรมต่างๆ อาทิ ฝึกให้นักเรียนอ่านออกเสียงและเขียนพยัญชนะรวมทั้งสระภาษาไทย สอนอ่านเขียนการแจกลูกสะกดคำ รวมทั้งฝึกให้นักเรียนเขียนตามคำบอก และคัดลายมือ จากผลการดำเนินกิจกรรมทำให้นักเรียนมีแนวโน้มความสามารถในการอ่านและการเขียนภาษาไทยเพิ่มมากขึ้น

ทอดพระเนตรการสาธิตการสอนระดับชั้นอนุบาล 3 เรื่อง ผักสวนครัวรั้วกินได้ กิจกรรมห้องพยาบาล กิจกรรมห้องสมุด มีการจัดกิจกรรมเกมส์บิงโก เรื่องสระอา เพื่อเสริมทักษะการอ่านให้แก่นักเรียน โครงการเกษตรเพื่ออาหารกลางวัน โรงเรียนจัดกิจกรรมการเรียนรู้และให้นักเรียนลงมือฝึกปฏิบัติในกิจกรรมปลูกพืชผักไม้ผล ปลูกผักยกแคร่ เพาะเห็ดนางฟ้า เลี้ยงไก่พันธุ์ไข่ เลี้ยงเป็ดเทศ รวมทั้งเลี้ยงปลาดุกในบ่อซีเมนต์และบ่อดิน ผลผลิตที่ได้เพียงพอและนำไปประกอบอาหารกลางวันให้แก่นักเรียน อีกทั้งยังต่อยอดเป็นฐานการเรียนรู้ให้แก่คนในชุมชนด้วย

จากนั้นทอดพระเนตรกิจกรรมฝึกวิชาชีพนักเรียน ได้แก่ ตัดผมนักเรียนชาย ทำให้นักเรียนมีทักษะด้านอาชีพสามารถนำไปประกอบอาชีพได้ในอนาคต กิจกรรมสหกรณ์นักเรียน มีการดำเนินกิจกรรมร้านค้า ออมทรัพย์ และส่งเสริมการผลิตทางการเกษตร โดยฝึกให้นักเรียนเรียนรู้และฝึกปฏิบัติในการจำหน่ายสินค้า รับฝาก-ถอนเงินของสมาชิก เป็นต้น ทำให้นักเรียนได้เรียนรู้หลักการสหกรณ์ และมีทักษะในการทำงานร่วมกับผู้อื่น

กิจกรรมประกอบเลี้ยงอาหารกลางวันและอาหารเสริมนม มีผู้ปกครองผลัดเปลี่ยนกันมาประกอบเลี้ยงวันละ 5 คน โดยใช้ผลผลิตจากโครงการเกษตรเพื่ออาหารกลางวันนำมาประกอบอาหาร สำหรับนักเรียนที่มีน้ำหนักน้อยกว่าเกณฑ์และมีภาวะเตี้ย โรงเรียนได้จัดอาหารเสริมนมและไข่ให้แก่นักเรียน และในช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 โรงเรียนได้ทำอาหารกลางวันไปแจกจ่ายให้แก่นักเรียน รวมทั้งมอบผลผลิตทางการเกษตรให้แก่ผู้ปกครองนักเรียนด้วย จากนั้นทอดพระเนตรการทำผลิตภัณฑ์อาหารแปรรูปของนักเรียน ได้แก่ ขนมยิ้มเสน่ห์ และถั่วทอด รวมทั้งผลิตภัณฑ์ของชุมชน ได้แก่ สบู่ เซรั่ม จากผึ้งชันโรง