Slide

22 ธันวาคม 2566

สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเปิดการประชุมวิชาการการพัฒนาเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดาร ตามพระราชดำริฯ ประจำปี 2566 “43 ปี การศึกษาไทยก้าวไกลด้วยพระเมตตา” ณ หอประชุมสมเด็จย่า มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย

วันที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2566 เวลา 09.00 น. สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเปิดการประชุมวิชาการการพัฒนาเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดาร ตามพระราชดำริ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ประจำปี 2566 “43 ปี การศึกษาไทยก้าวไกลด้วยพระเมตตา” ณ หอประชุมสมเด็จย่า มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย โดยมีนางพวงเพ็ชร ชุณละเอียด รัฐมนตรีประจําสํานักนายกรัฐมนตรี พร้อมทั้งที่ปรึกษางานโครงการตามพระราชดำริฯ หัวหน้าส่วนราชการ และข้าราชการ เฝ้าฯ รับเสด็จ

ในการนี้ได้พระราชทานเกียรติบัตรแก่พระภิกษุ และคณะครู ที่ได้รับรางวัลชนะเลิศการประกวดแข่งขันแนวปฏิบัติที่ดี ทั้ง 6 ด้าน จำนวน 42 ราย จากนั้นมีพระราชดำรัสเปิดการประชุม ความว่า

“ข้าพเจ้ายินดีที่ได้มาเปิดการประชุมวิชาการ “การพัฒนาเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดาร ตามพระราชดำริฯ ประจำปี 2566” และมอบวุฒิบัตรให้แก่ผู้ชนะเลิศแนวปฏิบัติที่ดี ในวันนี้

เด็กและเยาวชนไม่ว่าจะอยู่ในที่เจริญหรืออยู่ในพื้นที่ห่างไกลทุรกันดาร ล้วนเป็นทรัพยากรบุคคลที่สำคัญของประเทศ ที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องควรจะต้องเอาใจใส่ดูแลทุกด้าน เด็กและเยาวชนในพื้นที่ทุรกันดาร มีอุปสรรคใหญ่คือเรื่องการเดินทาง จึงมักขาดโอกาสที่จะเข้าถึงบริการต่างๆ ที่ควรได้รับ เช่น บริการด้านสุขภาพ การศึกษา อาชีพ ข้อมูลข่าวสาร เป็นต้น ที่สำคัญอย่างยิ่งคือเรื่องการศึกษา ซึ่งเป็นเครื่องมือที่จะช่วยเสริมส่งให้เด็กและเยาวชนเหล่านี้มีอนาคตที่ดี ช่วยสร้างฐานะ และยกระดับความเป็นอยู่ของครอบครัวให้ดีขึ้นได้ เด็กและเยาวชนในพื้นที่ทุรกันดารมีจำนวนมากที่ผลการเรียนดี สามารถศึกษาในขั้นสูง มีความรู้ ความสามารถที่จะเป็นกำลังช่วยพัฒนาถิ่นฐานของตน ตลอดจนรับหน้าที่ดูแลประเทศชาติต่อจากคนรุ่นเก่าได้ การช่วยเหลือเด็กและเยาวชนด้อยโอกาสให้ได้รับโอกาสด้านการศึกษาจึงเป็นเรื่องที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องต้องให้ความสำคัญและร่วมมือกันกระจายโอกาสด้านการศึกษาออกไปให้ทั่วถึง

ได้เวลาอันสมควรแล้ว ข้าพเจ้าขอเปิดการประชุมวิชาการ “การพัฒนาเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดาร ตามพระราชดำริฯ ประจำปี 2566” ณ บัดนี้ ”

โอกาสนี้ทรงบรรยายพิเศษเรื่อง “43 ปี บนเส้นทางการสร้างโอกาสทางการศึกษาเพื่อเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดาร” ซึ่งสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเริ่มงานด้านการพัฒนาเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดาร ตั้งแต่ปี 2523 เริ่มแรกทรงทดลองทำในโรงเรียนสังกัดกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน ซึ่งอยู่ในพื้นที่ห่างไกล ตามชายขอบของประเทศ มีเด็กและประชาชนยังขาดโอกาสทางการศึกษาและมีภาวะที่ยากลำบาก โดยทรงดำเนินงานโครงการเกษตรเพื่ออาหารกลางวัน เพื่อส่งเสริมโภชนาการและสุขภาพอนามัย ให้เด็กมีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรง พร้อมที่จะศึกษาและพัฒนาตนเอง นอกจากนี้ยังขยายผลไปสู่ชุมชนด้วยการส่งเสริมอาชีพให้แก่ประชาชนในพื้นที่ให้มีรายได้เสริม สามารถทำให้ครอบครัวของเด็กมีต้นทุนที่จะช่วยสร้างโอกาสทางการศึกษาให้แก่เด็กได้มากยิ่งขึ้น ต่อมาได้ขยายผลไปยังโรงเรียนสังกัดต่างๆ และพระราชทานทุนการศึกษาให้แก่นักเรียนและสามเณรนักเรียนในสถานศึกษาโครงการตามพระราชดำริฯ พระราชทานความช่วยเหลือในการส่งเสริมคุณภาพการศึกษา ทั้งการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของโรงเรียนให้เพียงพอ จัดจ้างครูให้แก่โรงเรียนที่ขาดแคลน พัฒนาศักยภาพครูผู้สอน พระราชทานอุปกรณ์และเครื่องมือทางการศึกษาที่จำเป็น เพื่อให้สามารถจัดการเรียนการสอนได้อย่างมีคุณภาพ โดยเน้นให้นักเรียนลงมือปฏิบัติเรียนรู้ด้วยตนเอง พร้อมกับการพัฒนาการเรียนการสอนในทุกๆ ด้าน ทั้งด้านพุทธิศึกษา จริยศึกษา หัตถศึกษา และพลศึกษา รวมทั้งพัฒนาสื่อการสอน พัฒนาห้องสมุดให้เป็นแหล่งเรียนรู้ และใช้เทคโนโลยีเพื่อการศึกษา เช่น การศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม การสอนทางไกลแบบสื่อสารสองทาง นอกจากนี้ในช่วงภาวะวิกฤตต่างๆ เช่น ภาวะวิกฤตน้ำท่วม หรือสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ได้พระราชทานถุงยังชีพเพื่อการศึกษา รวมทั้งอุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับจัดการเรียนการสอนผ่านระบบออนไลน์ ทั้งนี้เพื่อให้เด็กและเยาวชนได้เข้าถึงการศึกษามากขึ้น และได้รับโอกาสทางการศึกษาอย่างเท่าเทียมกัน

จากนั้นทอดพระเนตรวิดีทัศน์ ชุด “ดวงแก้วเทพรัตน พระปริยัติธรรม” พร้อมกันนี้ทอดพระเนตรนิทรรศการแนวปฏิบัติที่ดีของสถานศึกษาในโครงการตามพระราชดำริ 7 หน่วยงาน ได้แก่ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กรมส่งเสริมการเรียนรู้ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน สำนักการศึกษา กรุงเทพมหานคร และกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น รวมทั้งนิทรรศการนวัตกรรมที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาเด็กและเยาวชน ตามพระราชดำริ ของหน่วยงานสนับสนุน 11 หน่วยงาน ได้แก่ กรมส่งเสริมการเกษตร กรมประมง กรมปศุสัตว์ กรมพัฒนาที่ดิน กรมอนามัย กรมควบคุมโรค กรมสุขภาพจิต กรมส่งเสริมสหกรณ์ กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) และสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.)

สำหรับการจัดงานประชุมวิชาการครั้งนี้ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 21-22 ธันวาคม 2566 มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่พระราชกรณียกิจด้านการศึกษาและการพัฒนาเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดาร ตามพระราชดำริ แก่สาธารณชน รวมทั้งบุคลากรทางการศึกษาและผู้ปฏิบัติงานโครงการตามพระราชดำริได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนความคิดประสบการณ์ร่วมกัน โดยมีสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเป็นเจ้าภาพหลัก ร่วมกับหน่วยงานสถานศึกษาในโครงการตามพระราชดำริทั้ง 7 หน่วยงาน และโครงการส่วนพระองค์สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ร่วมกันดำเนินการจัดงานในครั้งนี้