สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงติดตามการดำเนินงานโครงการตามพระราชดำริ ณ โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านเขาฉลาด อำเภอเขาสมิง จังหวัดตราด

วันที่ 31 กรกฎาคม 2566 เวลา 09.30 น. สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงติดตามการดำเนินงานโครงการตามพระราชดำริ ณ โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านเขาฉลาด อำเภอเขาสมิง จังหวัดตราด โรงเรียนเปิดทำการสอนมาตั้งแต่ปี 2542 ในระดับชั้นอนุบาล ถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ปัจจุบันมีนักเรียน 95 คน สังกัดกองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 11 โดยทรงติดตามการดำเนินงานของโรงเรียนนี้เป็นครั้งที่ 6 และทรงเยี่ยมโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน เป็นครั้งที่ 1,110

โอกาสนี้พระราชทานเข็มเชิดชูเกียรติ ชั้นที่ 1 แก่ผู้ปฏิบัติงานโครงการตามพระราชดำริ 11 ราย และทรงติดตามงานโครงการพัฒนาเด็กและเยาวชน ตามพระราชดำริ สำหรับด้านภาวะโภชนาการของนักเรียน พบนักเรียนมีน้ำหนักต่ำกว่าเกณฑ์และมีภาวะอ้วน แก้ไขปัญหาโดยให้ความรู้ด้านโภชนาการแก่ผู้ปกครองและนักเรียน รวมทั้งส่งเสริมให้นักเรียนออกกำลังกายเป็นประจำ ด้านการส่งเสริมคุณภาพการศึกษา โรงเรียนมีนักเรียนในพระราชานุเคราะห์ กำลังศึกษาอยู่ระดับชั้นมัธยมศึกษาและระดับอุดมศึกษา 3 คน โดยนักเรียนมีผลการเรียนดี ซึ่งตั้งแต่ปีการศึกษา 2544 มีนักเรียนได้รับทุนการศึกษาพระราชทานสำเร็จการศึกษาแล้ว 14 คน ส่วนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน คะแนนเฉลี่ยของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 (O-NET) ปีการศึกษา 2565 รายวิชาวิทยาศาสตร์ และคณิตศาสตร์ มีคะแนนสูงกว่าระดับประเทศ

ทอดพระเนตรการสอนวิชาคณิตศาสตร์ของนักเรียนระดับชั้นอนุบาล เรื่องการนับเลข กิจกรรมสหกรณ์นักเรียน ฝึกให้นักเรียนดำเนินกิจกรรมร้านค้า ออมทรัพย์ ฝึกสอนทำบันทึกบัญชี และมีการทัศนศึกษาดูงานด้านสหกรณ์ กิจกรรมห้องสมุด มีกิจกรรมนิทานตุ๊กตามือ ส่งเสริมจินตนาการ และฝึกให้นักเรียนรักการอ่าน นอกจากนี้ยังมีหนังสือพระราชทานระดับมัธยมศึกษา ให้บริการศิษย์เก่า และผู้ที่สนใจค้นคว้าหาความรู้เพิ่มเติม

สำหรับกิจกรรมห้องพยาบาล ให้บริการปฐมพยาบาลนักเรียน และส่งเสริมความรู้ด้านสุขภาพอนามัย การป้องกันโรค ส่วนการงานอาชีพนักเรียน มีวิทยาลัยการอาชีพบ่อไร่ มาช่วยสอนนักเรียนทำไม้กวาดจากขวดพลาสติก ใช้ประโยชน์ในโรงเรียน นอกจากนี้ยังมีการทำ สเปรย์ไล่ยุงจากตะไคร้หอม เหรียญโปรยทาน น้ำยาล้างจาน และกล้วยฉาบ นักเรียนสามารถนำความรู้ไปต่อยอดประกอบอาชีพได้ในอนาคต ส่วนกิจกรรมอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มีพื้นที่ในโครงการ 14 ไร่ ฝึกให้นักเรียนสำรวจรวบรวมพรรณไม้ในบริเวณโรงเรียน และจัดเก็บตัวอย่างพรรณไม้ เพื่อใช้ศึกษาข้อมูลและถ่ายทอดความรู้ต่อไป

การนี้ทรงติดตามผลโครงการเกษตรเพื่ออาหารกลางวัน ซึ่งฝึกให้นักเรียนลงมือปฏิบัติในการปลูกผักสวนครัว ไม้ผล เพาะเห็ดนางฟ้า ทำกิจกรรมปศุสัตว์ เลี้ยงไก่พันธุ์ไข่ เป็ด กิจกรรมประมง เลี้ยงปลาดุก ปลานิล และเลี้ยงกบ ผลผลิตเพียงพอต่อความต้องการของนักเรียน และนำมาประกอบอาหารให้นักเรียนรับประทาน รวมทั้งส่งจำหน่ายผ่านระบบสหกรณ์โรงเรียน ขยายผลสู่ชุมชน โดยส่งเสริมการเรียนรู้ให้ผู้ปกครองนักเรียน และคนในชุมชน เข้ามาศึกษาดูงานด้านการเกษตร เช่น การปลูกผัก และเลี้ยงปลา สำหรับไว้บริโภคในครัวเรือน เพื่อลดรายจ่าย และยังสามารถนำความรู้ไปประกอบอาชีพสร้างรายได้ให้กับครอบครัว ทำให้สามารถพึ่งพาตนเองได้ และส่งผลให้เป็นชุมชนที่เข้มแข็ง